มาร์กอส สั่งยุติกิจการทั้งหมดของ “POGOs” ในฟิลิปปินส์
ธุรกิจคาสิโนออนไลน์ทั้งหมดของ POGOs กำลังจะถูกแบนในฟิลิปปินส์ จากการประกาศของประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ในการกล่าวสุนทรพนจ์ประจำปี ครั้งที่ 3 เขาได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยห้ามผู้ประกอบการเกมคาสิโนออนไลน์นอกชายฝั่งของฟิลิปปินส์ อย่างบริษัท POGOs ให้ยุติกิจกรรมการให้บริการคาสิโนทุกรูปแบบภายในสิ้นปีนี้ โดยได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์ดังกล่าว การตัดสินใจยุติกิจการในครั้งนี้มาจากแรงกดดันของวุฒิสภาของประเทศฟิลิปปินส์
ธุรกิจของ POGOs เชื่อมโยงกับกิจการที่ผิดกฎหมายภายในฟิลิปปินส์
สืบเนื่องมากจากที่ POGOs ได้มีส่วนเข้าไปพัวพันกับธุรกิจสีดำมากมายในประเทศฟิลิปปินส์ จากการบุกเข้าตรวจค้นหลายครั้งของทางรัฐบาล มีหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงไปยังกิจกรรมทางคดีอาญา การค้ามนุษย์ การค้าประเวณี การทรมาน และการดำเนินการผิดกฎหมายอื่นๆอีกมากมาย เป็นเหตุให้วุฒิสภาได้มีการถกเถียงและนำมาเปิดโปงผลเสียต่างๆเหล่านี้หลายประเด็น อย่างเช่น กรณีของนายกเทศมนตรีเมืองตาร์ลัก อลิซ กัว ที่ถูกสั่งพักงาน เพราะสงสัยว่าอาจเป็นสายลับของจีน หรือ ชาวต่างชาติสามารถซื้อใบสูติบัตรปลอมได้เป็นการสร้างความเสียหายให้กับประเทศฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก
แรงกดดันยกเลิกกิจการของ POGOs มาจากหลายช่องทาง
ในการกล่าวสุนทรพนจ์ประจำปีนี้ นอกจากแรงกดดันของสมาชิกวุฒิสภาแล้ว ยังรวมถึงกรณีที่ เชอร์วิน กัตชาเลียน, ริซา ฮอนติเวรอส และอาควิลิโน ปิเมนเทลที่ 3 ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวของหน่วยงานที่สนับสนุนทั้งกรมการคลัง (DOF) และสำนักงานเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งชาติ (NEDA) ที่เห็นด้วยในการประกาศห้ามการยุติการดำเนินกิจการของ POGOs
โดยทาง DOF กล่าวว่าถ้าหากปล่อยให้ทาง POGOs ยังคงดำเนินการต่อไป อาจจะส่งผลให้ประเทศฟิลิปปินส์สูญเสียเงินประมาณ 99,500 ล้านเปโซต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งประธานาธิบดี มาร์กอส ยังได้ประกาศห้ามธุรกิจการพนันออนไลน์ที่ดำเนินการโดยชาวจีนทั้งหมดในฟิลิปปินส์ ที่มีมากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ การประกาศในครั้งนี้ยังได้รับการร่วมมือจากจีนอีกด้วย
สถานทูตจีน กล่าวยินดีต่อการตัดสินใจของ มาร์กอส
แม้ว่าจีนและฟิลิปปินส์จะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ที่ตรึงเครียด จากนโยบายการบริการของประธาณาธิบดี มาร์กอส แต่หลังจากที่ได้ประกาศแบนธุรกิจคาสิโนออนไลน์ของ POCOs รวมถึงกิจการคาสิโนของชาวจีนทั้งหมด สถานทูตจีนประจำกรุงมะนิลาได้แสดงความยินดีกับการตัดสินใจของ มาร์กอส
โดยออกแถลงการณ์ว่า “เราเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะสะท้อนถึงความปรารถนาของประชาชนฟิลิปปินส์และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ จีนมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาความร่วมมือในด้านการบังคับการใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับฟิลิปปินส์ เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนทั้งสองประเทศจะปลอดภัยและอยู่ดีมีสุข”
แถลงการณ์นี้ได้ย้ำว่าทางการจีนนั้นจะไม่สนับสนับสนุนธุรกิจการพนันทุกประเภท โดยได้มุ่งเป้าไปที่ชาวจีนที่ทำธุรกิจการพนันระหว่างประเทศ อย่าง POGOs ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ที่เป็นภัยคุกคามต่อทั้งชาวจีนและชาวฟิลิปปินส์
หน่วยงานของ PAGCOR คัดค้านการแบนในครั้งนี้
ท่ามกลางเสียงสนับสนุนจากทุกฝ่ายนั้น ทางหน่วยงานของ Pargor (Philippines offshore gaming operators) ที่เป็นผู้ออกกฏและข้อบังคับที่ครอบคลุมธุรกิจคาสิโนออนไลน์ชื่อดัง ได้คัดค้านการประกาศแบนในครั้งนี้ โดยทาง Alejandro Tengco
ประธานและซีอีโอของ Pargor ได้ออกมาแถลงอย่างชัดเจนว่า ประเทศฟิลิปปินส์อาจจะได้ผลกระทบทางการเงินจาการสั่งยุติกิจการของ Pargor จาการประเมินการยุติกิจการในครั้งนี้อาจสูญเงินมากถึง 40,000 ล้านเปโซ ไม่ควรสั่งยุติกิจการแต่ให้เพิ่มาตราการ การตรวจสอบที่คุมเข้มเข้ามาแทนที่มากกว่า
โดยธุรกิจของ Pargor นั้น มีรายได้จากการเล่นเกมออนไลน์สูงถึง 17,500 ล้านเปโซ ในครึ่งปีแรกของปี 2024 และยังมีแนวโน้มรายได้มีโอกาสที่จะพุ่งสูงถึง 42,000 ล้านเปโซภายในสิ้นปี หากทำการรวมรวมบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนควบคุมให้เข้าในกรอบของกฏหมายอย่างถูกต้อง
ผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเกมคาสิโนออนไลน์
หากประกาศนโยบายแบน POGOs เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ผู้ประกอบการเกมนอกชายฝั่งของฟิลิปปินส์ ที่ดำเนินกิจการจากจีนทั้งหมดที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาตจะถูกยุติลง ซึ่งการสั่งการในครั้งนี้มีกำหนดเส้นตาย ให้หน่วยงานต้องยุติการดำเนินการของธุรกิจประเภทนี้หมดไปภายในสิ้นปี จะส่งผลให้เกิดการตกงานทันทีในอุตสหกรรมนี้นับหมื่นคน จากผู้ให้บริการมากกว่า 400 แห่งในประเทศนี้ซึ่งส่วนมากจะดำเนินกิจการโดยชาวจีนเป็นหลัก
โดยมีพลเมืองจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงชาวฟิลิปปินส์ที่จะได้รับผลกระทบจากการยุติการดำเนินกิจการของ POGOs