ประวัติการแก้ไขกฎหมายป้องกันการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุน
ในร่างกฎหมายปราบปรามการฟอกเงินฉบับใหม่ที่เสนอโดยรัฐสภาสิงคโปร์ เน้นการเสริมสร้างมาตรการป้องกันการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนสำหรับการก่อการร้าย และการแพร่กระจายอาวุธ โดยเฉพาะในหลักการตรวจสอบลูกค้าที่เข้มงวดขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินที่อาจสนับสนุนการทำความผิดกฎหมายในด้านนี้
การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบลูกค้า (Customer Due Diligence – CDD)
รัฐสภาสิงคโปร์ได้ให้การแก้ไขกฎหมายในการควบคุมคาสิโนฉบับใหม่เพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบการคาสิโนต้องดำเนินการ CDD อย่างเข้มงวดกว่าเดิม โดยกำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบลูกค้าทุกครั้งที่มียอดการฝากหรือการทำธุรกรรมเงินสดตั้งแต่ 4,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ขึ้นไป ซึ่งเป็นการเพิ่มความเข้มงวดเมื่อเทียบกับมาตรการที่ใช้ก่อนหน้านี้ที่กำหนดให้ CDD เกิดขึ้นเมื่อมียอดธุรกรรมเกิน 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือมากกว่า หรือการรับเงินมากกว่า 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ในธุรกรรมเดียวเพื่อฝากเข้าบัญชีเงินฝาก
การเสริมความสามารถในการตรวจจับและป้องกันการจัดหาเงินทุนสำหรับอาวุธ
มาตรการใหม่นี้ยังเน้นไปที่การป้องกันการจัดหาเงินทุนสำหรับผลิตอาวุธที่อาจเกิดจากการฟอกเงิน โดยมีการตรวจสอบเพิ่มเติมที่เน้นกลุ่มความเสี่ยงเช่น Proliferation Financing (PF) ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลการพนันของสิงคโปร์ (Gambling Regulatory Authority – GRA) มีอำนาจในการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการคาสิโนสามารถตรวจจับหรือป้องกัน PF ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนี้ต่อภูมิทัศน์อาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการยกระดับประสิทธิภาพของการป้องกันการฟอกเงินที่สิงคโปร์ได้รับมอบหมายจาก FATF องค์กรเฝ้าระวังการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อการร้ายทั่วโลก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภูมิทัศน์ของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลง และต้องการให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย (Law Enforcement Agencies – LEAs) มีความสามารถในการปรับปรุงกระบวนการเพื่อให้เข้าสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนดไว้
ร่างกฎหมายใหม่นี้ถูกเสนอในการอ่านครั้งแรกในรัฐสภาสิงคโปร์เมื่อวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป