รู้จักกับการแข่งขัน Formula-E

ก้าวสำคัญของ Formula E ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ศึกชิงเจ้าแห่งความเร็วในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้เริ่มจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2014 โดยประเดิมสนามแรกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และได้จัดการแข่งขัน รถแข่งฟอร์มูล่าสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังได้รับ ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันในปี 2020 เราได้เห็นถึงปรากฏการณ์ใหม่ๆ มากมายที่เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกซึ่งรวมไปถึงกีฬาการแข่งรถ Formula E ด้วยความยิ่งใหญ่และเร้าใจไม่แพ้ปีก่อนๆ กำลังถูกจับตามองในโลกของกีฬาการแข่งขันรถ ซึ่งเป็นกระแส จากเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ Formula E นั้นความท้าทายเร้าใจของกีฬา extremeที่สำคัญของวงการแข่งขันรถยุคใหม่

การแข่งขันครั้งแรกตั้งแต่ปี 2014

โดยใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ABB FIA Formula E Championship ด้วยสนับสนุนการแข่งขันในฐานะเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมรถไฟฟ้าและเป็น Official Vehicle Partner ให้การแข่งขันมาโดยตลอดซึ่ง BMW i8 ปัจจุบัน ใน Season 6 และถูกรับเลือกให้เป็นรถยนต์ Safety car ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกโดยมีตัวเลขพละกำลังที่สูงถึง 335.26 แรงม้า สามารถทำตัวเลข 0-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.8 วินาทีเท่านั้นส่วนBMW Motorsport ลงแข่งภายใต้ชื่อทีม BMW i Andretti Motorsport ซึ่งใช้รถแข่งไฟฟ้าสุดล้ำอย่าง BMW IFE.20 ลงแข่ง
ซึ้งเป็นก้าวใหม่ของวงการ และไฮไลท์ ที่สำคัญของการแข่งขัน Formula E คือ ระบบ FANBOOST ซึ่งเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้แฟนคลับ
ชื่อชอบ สามารถโหวต ให้กับนักขับที่พวกเขา ผ่าน Website และสื่อ Social media โดยนักแข่งที่ได้รับคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกจะได้รับ
พละกำลังรถเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาพิเศษ (ปกติแล้วรถ จะถูกจำกัดไว้ที่ 200 แรงม้า)ปัจจุบันการแข่งขันกีฬา Formula E จากการแข่งขันในสนามที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กรุงโรม ประเทศอิตาลี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษและครั้งล่าสุดที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งในสนามล่าสุดนักแข่งหนุ่ม วัย 23 ปี Maximilian Günther ก็ได้คว้าแชมป์ในสนามนี้จากทีม BMW i Andretti Motorsport ด้วยกลยุทธ์การประหยัดพลังงานจนถึงวินาทีสุดท้าย ที่ได้เข้าเส้นชัยไปด้วยเวลาเพียง 0.128 วินาที สร้างสถิติที่เฉียดฉิวที่สุดตั้งแต่มีการแข่งขัน Formula E กันมา

FORMULA E CHAMPIONSHIP พโรแกรมการแข่งขันรถพลังไฟฟ้ายุคใหม่

มีรางวัลพิเศษสำหรับผู้ที่ทำความเร็วสูงสุด การใช้พื้นเมืองที่ชุมชนทั่วโลกในการแข่งขัน ระดับแนวหน้าแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ท ประกอบด้วย 11 ทีม และนักแข่ง 22 คน โดยจะจัดการแข่งขันใน 12 เมือง จาก 5 ทวีปทั่วโลก ด้วยรถพลังงานไฟฟ้า 1 ที่นั่ง ที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบทักษะการแข่งขันของนักแข่ง ในการแข่งแต่ละครั้งจะใช้เวลา 45 นาที ซึ่งจะมีผู้ชนะ 10 ทีม แถมยังมีพโรแกรมที่เรียกว่า FAN BOOST ซึ่งเปิดโอกาสให้แฟนคลับได้ลงคะแนนให้แก่นักแข่งที่ชื่นชอบ ร่วมกับพโรแกรม ATTACK MODE อีกด้วยและทำให้แฟนๆ มีโอกาสชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

ในฤดูกาลการแข่งขันครั้งที่ 5

การแข่งขันของยานพาหนะรุ่นที่ 2 เป็นครั้งแรก เมื่อเทียบกับฤดูกาลการแข่งขันก่อนหน้านี้ การแข่งขัน เพื่ออนาคต ยังมีโครงเส้นใยคาร์บอน และที่ครอบล้อด้านหน้า ซึ่งทำจากเส้นใยคาร์บอน บวกกับอัพเกรดแบทเตอรี และพละกำลังที่ ทำให้ระดับความเร็วของรถ Formula E ที่น่าตื่นเต้น โดยจะมีรถ 1 คัน/นักแข่งเพียง 1 คน เท่านั้น ในขณะที่การแข่งขันครั้งก่อนนักแข่งจะต้องเปลี่ยนรถ เพื่อชาร์จแบทเตอรี และขับอีกคัน เพื่อแข่งขันต่อไป

ส่วนประกอบในการแข่งขัน Formular E

-ความปลอดภัย
เพื่อแสดงการทำงานของระบบใหม่ที่ชื่อว่า ATTACK MODE และFANBOOST ระบบปกป้องส่วนหัวรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า HALOร่วมกับไฟ LED
-การทำงานของ Formula E 
รุ่นที่ 2 เป็นรถแข่งแห่งอนาคตที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดมากมาย ซึ้งเป็นยานพาหนะสำหรับแข่งขัน Formula E
– ระบบทำความเย็น
เพื่อไม่ให้การทำงานที่หนักจนเกินไปขณะแข่งขันระบบที่สำคัญต้องมั่นใจว่าระบบได้รักษาภาวะการทำงานของแบทเตอรี และมอเตอร์ให้ดีที่สุด
-มอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ Formula E 
สามารถทำให้เกิดพลังงานได้สูงสุดเพิ่มขึ้นได้ถึง 250 กิโลวัตต์ และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 280 กม./ชม.ในรุ่นที่ 2
-โครงรถที่มีน้ำหนักที่เบาขึ้นเหมาะสำหรับการแข่งขัน
สปอยเลอร์ที่อยู่ด้านบนล้อด้านหลังด้วย และโครงของตัวถังของรถ เป็นเส้นใยคาร์บอนจะคลุมส่วนล้อด้านหน้าทำให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้นเหมาะสำหรับการแข่งขัน
-การใช้ยางรถยนต์
ตลอดฤดูกาลการแข่งขันครั้งที่ 5 นี้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลย ยางที่สามารถใช้ในการแข่งขันทุกสภาพอากาศ
-แบทเตอรี
ในรุ่นที่ 2 แบทเตอรีเก็บพลังงานได้มากขึ้นถึง 95 % แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียง 20 % เท่านั้น และมีความจุอยู่ที่ 54 กิโลวัตต์ชั่วโมง
-เบรค
ระบบเบรคชนิดมีสายทำให้ระบบ REGENNERATIVE BRAKING สามารถคืนพลังงานกลับสู่แบทเตอรีได้

ก้าวสำคัญของ Formula E ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

-2011
ถูกพัฒนาโดยประธานแห่งสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ JEAN TODT ผู้สร้างรถฟอร์มูลา อี
-2014
ฤดูกาลที่ 1 เริ่มต้นในเดือนกันยายนที่เมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 10 ทีม
-2015
ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เนลสัน ปิเกต์ ชนะการแข่งขันประเภทนักแข่ง และเรอโนล์ต เอ ดัมส์ ชนะการแข่งขันประเภททีมการแข่งขันที่ บัทเตอร์ซี พาร์ค ในลอนดอน
-2015
ฤดูกาลที่ 2 เริ่มต้นในเดือนตุลาคม โดยมีการแข่งขันที่เมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดโอกาสให้แต่ละทีมสามารถคิดค้นวิธีการพัฒนาระบบส่งกำลังได้
-2016
การแข่งขันครั้งสุดท้ายจัดขึ้นที่บัทเตอร์ซี ในลอนดอน เดือนกรกฎาคม นักแข่งที่ชนะการแข่งขัน คือ เซบัสเตียน บูเอมี ในขณะที่ เรอโนล์ต เอ ดัมส์
ประเภททีมเป็นครั้งที่ 2
-2016
ฤดูกาลที่ 3 เริ่มต้นในเดือนธันวาคม ที่ฮ่องกง รถที่ใช้ระบบฟื้นฟูพลังงานก็เพิ่มมากขึ้น และมีแบทเตอรีขนาด 28 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยการแนะนำจากบริษัท วิลเลียมส์ แอดวานศ์ เอนจิเนียริง

พลังงานสูงสุด/พลังงานในการแข่งขันสูงสุด
รุ่นที่ 1 : 200 กิโลวัตต์ (268 แรงม้า)/180 กิโลวัตต์
รุ่นที่ 2 : 250 กิโลวัตต์ (335 แรงม้า)/200 กิโลวัตต์

FANBOOST คือ ระบบที่เปิดโอกาสให้แฟนๆที่มีความสนใจก็ สามารถโหวทให้กับนักแข่งโดยผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้พลังงานเสริมแก่นักแข่งที่ชื่นชอบระหว่างการแข่งขัน เป็นความสนุกและตื่นเต้น

Asia Casino
Logo